เพราะ นักกีต้าร์ อย่างเราๆ รู้ดีว่า สายกีต้าร์นั้น มีผลต่อเสียงที่ออกมาขนาดไหน
วันนี้เรามี ทั้งสายกีต้าร์โปร่ง ส่ยกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า สายกีต้ารไฟฟ้า ราคาพิเศษ มาให้กับทุกท่าน
แต่ก่อนอื่น เผื่อมีมือใหม่เข้ามาอ่าน บทความนี้
ผมขออนุญาต เริ่มต้นที่ ประเภทของสายกีต้าร์ กันก่อน
“สายกีต้าร์โปร่ง สายกีต้าไฟฟ้า และ สายกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า มันแบบเดียวกันได้ไหม”
คำถามนี้ จะต้องเริ่มต้นที่ สายกีต้าร์มีกี่ประเภท และ ประเภทไหนเหมาะกับกีต้าร์แบบไหน
สายกีต้าร์นั้นถ้าแบ่งจริงๆ ก็มี 2 ประเภท
1. สายกีต้าร์ไนลอน (Nylon Strings)
สายกีต้าร์ไนลอน (Nylon Strings)
* ลักษณะ: ทำจากไนลอนหรือวัสดุสังเคราะห์ที่คล้ายคลึงกัน มักใช้กับกีตาร์คลาสสิกและกีต้าร์โปร่งบางรุ่น
* เสียง: ให้เสียงที่นุ่มนวล อบอุ่น เหมาะสำหรับเล่นเพลงคลาสสิก หรือเพลงที่ต้องการเสียงที่ละมุนละไม
* ข้อดี: กดสายง่าย ไม่เจ็บนิ้ว เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
* ข้อเสีย: เสียงอาจจะไม่ดังเท่าสายเหล็ก
2. สายกีต้าร์เหล็ก (Steel Strings)
สายกีต้าร์เหล็ก (Steel Strings)
* ลักษณะ: ทำจากโลหะ เช่น สแตนเลส หรือทองแดง มีทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบ
* เสียง: ให้เสียงที่ดัง สดใส และมีพลัง เหมาะสำหรับเล่นเพลงแนว Rock, Pop, Country หรือเพลงที่ต้องการเสียงที่หนักแน่น
* ข้อดี: ให้เสียงที่หลากหลาย สามารถปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการ
* ข้อเสีย: กดสายอาจจะแข็งกว่าสายไนลอน ทำให้เจ็บนิ้วได้ง่าย
แล้วขนาดของสายกีต้าร์ มีขนาดเดียวหรือเปล่า?
ขนาดของสายกีต้าร์มักจะระบุด้วยตัวเลข เช่น .010, .011, .012 เป็นต้น
แล้ว สายเบอร์ไหน เหมาะกับ ใคร
เลือกสายกีต้าร์เบอร์ไหนดี? มาดูกันว่าเบอร์ไหนเหมาะกับคุณ!
การเลือกสายกีต้าร์เบอร์ไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สไตล์การเล่น กำลังนิ้ว และประเภทของกีตาร์ มาดูกันว่าเบอร์สายแต่ละเบอร์เหมาะกับใครกันบ้าง
สายกีต้าร์แต่ละเบอร์ มีความแตกต่างกันอย่างไร?
* เบอร์สาย: หมายถึงความหนาของสาย โดยเบอร์ที่น้อยจะหมายถึงสายมีขนาดเล็ก และเบอร์ที่มากจะหมายถึงสายมีขนาดใหญ่
* ผลกระทบต่อเสียง: สายเบอร์เล็กจะให้เสียงที่ใส เบา กดสายง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือคนที่ต้องการเสียงที่นุ่มนวล
ในขณะที่สายเบอร์ใหญ่จะให้เสียงที่หนักแน่น ดัง และมีพลัง เหมาะสำหรับแนวเพลงที่ต้องการความหนักแน่น
* ผลกระทบต่อการเล่น: สายเบอร์เล็กจะกดง่ายกว่า แต่เสียงอาจจะเบา ในขณะที่สายเบอร์ใหญ่จะกดยากกว่า แต่ให้เสียงที่ดังและหนักแน่น
สายกีต้าร์เบอร์ไหนเหมาะกับใคร?
* ผู้เริ่มต้น: ควรเลือกสายเบอร์ 9 หรือ 10 เนื่องจากกดง่าย ไม่เจ็บนิ้ว และให้เสียงที่ใส เหมาะสำหรับฝึกฝน
* ผู้ที่ต้องการเสียงใส เบา: เหมาะกับสายเบอร์ 9 หรือ 10
* ผู้ที่ต้องการเสียงหนักแน่น ดัง: เหมาะกับสายเบอร์ 11 หรือ 12 ขึ้นไป
* ผู้ที่มีกำลังนิ้วมาก: สามารถเลือกใช้สายเบอร์ใหญ่ได้
* ผู้ที่มีกำลังนิ้วน้อย: ควรเลือกสายเบอร์เล็ก
สรุปวิธีการเลือกเบอร์สายกีต้าร์แบบง่าย ก็ ตัวเลขที่น้อยแสดงว่าสายมีขนาดเล็ก และตัวเลขที่มากแสดงว่าสายมีขนาดใหญ่
ตารางสรุปเบอร์สายกีต้าร์ที่นิยม
เบอร์สาย | ความหนา | เหมาะสำหรับ |
9 | เล็ก | ผู้เริ่มต้น, เสียงใส |
10 | ปานกลาง | เสียงบาลานซ์ |
11 | ใหญ่ | เสียงหนักแน่น |
12 | ใหญ่ที่สุด | เสียงหนา |
สายที่มีขนาดเล็กจะกดง่ายกว่า แต่เสียงอาจจะเบากว่า ในขณะที่สายที่มีขนาดใหญ่จะให้เสียงที่ดังและหนักแน่นกว่า แต่กดสายอาจจะยากกว่า
แต่ก็นั่นแหละครับ การเลือกสายกีต้าร์เบอร์ไหนดีนั้นไม่มีคำตอบที่ตายตัว
ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ลองทดลองใช้สายกีต้าร์เบอร์ต่างๆ เพื่อหาเสียงที่ถูกใจที่สุด
การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้ผมสามารถแนะนำสายกีต้าร์ที่เหมาะสมกับคุณได้มากขึ้นครับ
พอมาถึงจุดนี้ คำตอบ ของคำถามที่ว่า
“สายกีต้าร์โปร่ง สายกีต้าไฟฟ้า และ สายกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า มันแบบเดียวกันได้ไหม”
คำตอบ คือ ได้ แต่ เสียงมันจะแหม่งๆ..😅 หรือ อาจจะมีคาแรคเตอร์ที่แปลกไป
แต่ๆๆๆ คุณอาจจะชอบก็ได้
แล้ว สายกีต้าร์โปร่ง กับ สายกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า ใช้ด้วยกันได้ไหม
คำตอบคือได้ เพราะ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า ก็คือ กีต้าร์โปร่ง ที่เราปรับแต่งเอาภาคไฟฟ้า ใส่เข้าไปเพื่อช่วยขยายเสียงของกีต้าร์ให้ดังยิ่งขึ้น
สุดท้าย ถึง คิวที่ที่คนรอบคอย กับ ProMotion สายกีต้าร์โปร่ง สายกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า และ สายกีต้าร์ไฟฟ้า ราคาพิเศษ
เริ่มต้นที่
สายกีต้าร์ D’Addario: เจาะลึกทุกมิติ พร้อมคำแนะนำสำหรับกีต้าร์โปร่งและไฟฟ้า
สายกีต้าร์ D’Addario เป็นแบรนด์สายกีต้าร์ที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีให้เลือกหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีเอกลักษณ์เสียงที่แตกต่างกันไป การเลือกสายกีต้าร์ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นและประเภทของกีต้าร์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้เสียงที่ต้องการ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อเสียงของสายกีต้าร์ D’Addario
* วัสดุ: ส่วนใหญ่ทำจากทองแดงผสม ซึ่งมีอัตราส่วนทองแดงที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความสว่างและความอบอุ่นของเสียง
* ขนาด: มีผลต่อความตึงของสาย ซึ่งส่งผลต่อโทนเสียง ความดัง และความสบายในการเล่น
* การเคลือบ: ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและป้องกันสนิม แต่ก็อาจส่งผลต่อโทนเสียงได้เล็กน้อย
* ประเภทของกีต้าร์: แต่ละรุ่นเหมาะกับกีต้าร์ประเภทต่างๆ เช่น กีต้าร์โปร่ง กีต้าร์ไฟฟ้า หรือกีต้าร์คลาสสิก
รีวิวโดยรวมและคำแนะนำสำหรับกีต้าร์แต่ละประเภท
สำหรับกีต้าร์โปร่ง
* D’Addario EXP Coated: เหมาะสำหรับมือใหม่และนักดนตรีที่ต้องการเสียงที่สม่ำเสมอ ทนทานต่อการใช้งาน
* D’Addario EJ: ให้เสียงที่อบอุ่นและมีมิติ เหมาะสำหรับการเล่นแนวอะคูสติกและฟิงเกอร์สไตล์
* D’Addario XS: ให้ความรู้สึกในการเล่นที่เบาและนุ่มนวล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดแรงตึงของนิ้ว
สำหรับกีต้าร์ไฟฟ้า
* D’Addario NYXL: ให้เสียงที่สว่างและคมชัด เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเสียงที่ป็อปและมีพลัง
* D’Addario XL Nickel Wound: เป็นตัวเลือกที่หลากหลาย เหมาะสำหรับหลายสไตล์การเล่น ให้เสียงที่บาลานซ์ดี
วิธีเลือกสายกีต้าร์ D’Addario ที่เหมาะสม
* กำหนดสไตล์การเล่น: เลือกสายที่ให้เสียงที่เข้ากับแนวเพลงที่คุณเล่น
* พิจารณากีต้าร์: เลือกสายที่เหมาะกับประเภทและคุณภาพของกีต้าร์
* ลองเล่น: การลองเล่นสายกีต้าร์จริงจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีที่สุด
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย D’Addario ได้เลยที่ – https://s.lazada.co.th/s.k0Ey6?cc
ตัวต่อไปเป็น
สายกีตาร์ Ernie Ball: เจาะลึกทุกมิติ เพื่อเสียงที่ใช่ของคุณ
Ernie Ball เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สายกีตาร์ยอดนิยมที่นักดนตรีทั่วโลกให้ความไว้วางใจ ด้วยคุณภาพและเสียงที่โดดเด่น ทำให้สายกีตาร์ Ernie Ball มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักดนตรีแต่ละคน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อเสียงของสายกีตาร์ Ernie Ball
* วัสดุ: ส่วนใหญ่ทำจากนิเกิลเคลือบทองแดง ซึ่งมีผลต่อความสว่างและความอบอุ่นของเสียง
* ขนาด: มีผลต่อความตึงของสาย ซึ่งส่งผลต่อโทนเสียง ความดัง และความสบายในการเล่น
* การเคลือบ: ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและป้องกันสนิม แต่ก็อาจส่งผลต่อโทนเสียงได้เล็กน้อย
* ประเภทของกีต้าร์: แต่ละรุ่นเหมาะกับกีต้าร์ประเภทต่างๆ เช่น กีต้าร์โปร่ง กีต้าร์ไฟฟ้า หรือกีต้าร์คลาสสิก
รีวิวโดยรวมและคำแนะนำสำหรับกีต้าร์แต่ละประเภท
สำหรับกีต้าร์โปร่ง
* Ernie Ball Earthwood: ให้เสียงที่อบอุ่นและมีมิติ เหมาะสำหรับการเล่นแนวอะคูสติกและฟิงเกอร์สไตล์
* Ernie Ball Phosphor Bronze: ให้เสียงที่สว่างและคมชัด เหมาะสำหรับการเล่นแนวบลูส์และคันทรี
สำหรับกีต้าร์ไฟฟ้า
* Ernie Ball Slinky: เป็นสายที่ได้รับความนิยมสูง ให้เสียงที่สว่างและคมชัด เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเสียงที่ป็อปและมีพลัง
* Ernie Ball Super Slinky: ให้เสียงที่นุ่มนวลกว่า Slinky เล็กน้อย เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเสียงที่เบากว่า
* Ernie Ball Cobalt: ให้เสียงที่สว่างและคมชัด มีซัสเทนยาวนาน เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเสียงที่คมชัดและทันสมัย
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย Ernie Ball ได้เลยที่ – https://s.lazada.co.th/s.HnUVb?cc
ตัวต่อไปก็ถึงคิวของสายกีตาร์ Elixir
เลือกสายกีตาร์ Elixir รุ่นไหนดีน้าาาาา
สายกีตาร์ Elixir เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนานและเสียงที่คงทน แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่ารุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์ของตัวเองมากที่สุด วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงเสียงของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้คุณเลือกสายที่ตอบโจทย์ได้ตรงใจที่สุด
เข้าใจเทคโนโลยีเคลือบของ Elixir ก่อน
* Nanoweb: เคลือบผิวบางเบา ให้เสียงใส โปร่ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่สดใสและต้องการความรู้สึกในการเล่นที่เป็นธรรมชาติ
* Optiweb: เคลือบผิวหนากว่า Nanoweb เล็กน้อย ให้เสียงที่อุ่นขึ้น มีความบาลานซ์ระหว่างเสียงสูงและเสียงต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่อบอุ่นและมีมิติ
* Polyweb: เคลือบผิวหนาที่สุด ให้เสียงที่อบอุ่น นุ่มลึก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่อิ่มและต้องการลดเสียงรบกวน
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์โปร่ง?
* สำหรับเสียงที่โปร่งใสและสดใส: Elixir Nanoweb เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม จะช่วยให้เสียงกีตาร์ของคุณมีความกระจ่างชัดและคมชัด
* สำหรับเสียงที่อบอุ่นและมีมิติ: Elixir Optiweb จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเสียงกีตาร์ของคุณ ทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น
* สำหรับเสียงที่นุ่มลึกและลดเสียงรบกวน: Elixir Polyweb เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสียงที่นุ่มนวลและต้องการลดเสียงรบกวนจากการเล่น
รุ่นไหนเหมาะกับกีต้าร์ไฟฟ้า?
* สำหรับเสียงที่คมชัดและทันสมัย: Elixir Nanoweb จะช่วยให้เสียงกีตาร์ไฟฟ้าของคุณมีความคมชัดและทันสมัย เหมาะสำหรับเล่นเพลงแนว Rock หรือ Metal
* สำหรับเสียงที่อบอุ่นและมีเนื้อเสียง: Elixir Optiweb จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเสียงกีตาร์ไฟฟ้าของคุณ ทำให้เสียงมีความนุ่มนวลและมีเนื้อเสียงมากขึ้น
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย Elixir ได้ที่ https://s.lazada.co.th/s.HnUnM?cc
ตามมาด้วย สายกีต้ารของ Gibson
สายกีตาร์ Gibson: เลือกสายให้เข้ากับกีตาร์ของคุณ!
สายกีตาร์ Gibson เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักกีตาร์ทั่วโลก ด้วยคุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และความทนทาน แต่จะมีรุ่นไหนที่เหมาะกับกีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้าของคุณบ้าง? มาดูรายละเอียดกันเลยครับ
เข้าใจวัสดุของสายกีตาร์ Gibson ก่อน
* Phosphor Bronze: เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในสายกีตาร์โปร่ง ให้เสียงที่อบอุ่น มีความบาลานซ์ระหว่างเสียงสูงและเสียงต่ำ เหมาะสำหรับแนวเพลง Acoustic, Folk และ Country
* 80/20 Bronze: ให้เสียงที่สดใส โปร่ง และมีความกระจ่างชัด เหมาะสำหรับแนวเพลงที่ต้องการความคมชัด เช่น Bluegrass หรือ Fingerstyle
* Nickel Plated: นิยมใช้ในสายกีตาร์ไฟฟ้า ให้เสียงที่สว่าง ใส และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับแนวเพลง Rock, Blues และ Metal
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์โปร่ง?
* Gibson Phosphor Bronze: เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับกีตาร์โปร่ง ให้เสียงที่อบอุ่นและมีมิติ เหมาะสำหรับการเล่นเพลงแนว Acoustic หรือ Folk
* Gibson 80/20 Bronze: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสียงที่สดใสและกระจ่างชัด เหมาะสำหรับการเล่นเพลงแนว Bluegrass หรือ Fingerstyle
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์ไฟฟ้า?
* Gibson Nickel Plated: เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า ให้เสียงที่คมชัดและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเล่นเพลงแนว Rock, Blues หรือ Metal
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย Gibson ได้ที่ – https://s.lazada.co.th/s.HnUqg?cc
ตัวต่อไป
สายกีตาร์ Martin Lee
สายกีตาร์ Martin Lee เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าสายรุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์และสไตล์การเล่นของตัวเอง มาดูรายละเอียดกันเลยครับ
ทำไมต้องสายกีตาร์ Martin Lee?
* ราคาเข้าถึงง่าย: เหมาะสำหรับนักดนตรีมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการลองเปลี่ยนสายกีตาร์
* คุณภาพเสียงดี: ให้เสียงที่ใสและคมชัด คุ้มค่าเกินราคา
* ความทนทาน: มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเมื่อเทียบกับสายกีตาร์ในระดับราคาเดียวกัน
สายกีตาร์ Martin Lee มีกี่รุ่น?
Martin Lee มีสายกีตาร์หลายรุ่นให้เลือก โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของวัสดุและขนาด ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพเสียงและความรู้สึกในการเล่น
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์โปร่ง?
* Martin Lee Light Series: เหมาะสำหรับกีตาร์โปร่งทุกประเภท ให้เสียงที่บาลานซ์ดี ทั้งเสียงสูงและเสียงต่ำ เล่นง่าย ไม่เมื่อยนิ้ว
* Martin Lee Phosphor Bronze: เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่อบอุ่น มีมิติ เหมาะกับแนวเพลง Acoustic, Folk และ Country
* Martin Lee 80/20 Bronze: เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่สดใส โปร่ง เหมาะกับแนวเพลง Bluegrass หรือ Fingerstyle
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์ไฟฟ้า?
* Martin Lee Light Series: เหมาะสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าทุกประเภท ให้เสียงที่ใสและคมชัด เหมาะกับแนวเพลง Rock, Blues และ Metal
* Martin Lee Nickel Plated: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสียงที่สว่าง ใส และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเล่น Solo หรือ Lead
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย Martin Lee ได้ที่ – https://s.lazada.co.th/s.HnUAF?cc
อีกตัวที่จะขาดไปไม่ได้ คือ สายกีต้าร์ Olympia
สายกีต้าร์ Olympia เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักดนตรีไทย ด้วยราคาที่จับต้องได้และคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าสายรุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์และสไตล์การเล่นของตัวเอง มาดูรายละเอียดกันเลยครับ
สายกีต้าร์ Olympia มีอะไรดี?
* ราคาประหยัด: เหมาะสำหรับนักดนตรีมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการลองเปลี่ยนสายกีตาร์บ่อยๆ
* คุณภาพเสียงดีเกินราคา: ให้เสียงที่ใส คมชัด และมีความบาลานซ์ที่ดี
* ความหลากหลาย: มีให้เลือกหลายรุ่น หลายขนาด ตอบโจทย์ความต้องการของนักดนตรีได้หลากหลาย
รุ่นไหนเหมาะกับกีต้าร์โปร่ง?
* Olympia Standard Series: เป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ให้เสียงที่อบอุ่น มีมิติ เหมาะสำหรับแนวเพลง Acoustic, Folk และ Country
* Olympia CTE Series: ซีรีส์สายเคลือบป้องกันความชื้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสายที่ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน
* Olympia Phosphor Bronze: เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่อบอุ่น มีความนุ่มนวล
รุ่นไหนเหมาะกับกีต้าร์ไฟฟ้า?
* Olympia Standard Series: เหมาะสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าทุกประเภท ให้เสียงที่ใส คมชัด เหมาะกับแนวเพลง Rock, Blues และ Metal
* Olympia Nickel Plated: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสียงที่สว่าง ใส และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเล่น Solo หรือ Lead
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย Olympia ได้ที่ – https://s.lazada.co.th/s.Ho6oW?cc
อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดไทย ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ สายกีต้าร์ St. Matthew
สายกีต้าร์ St. Matthew: เลือกสายให้เข้ากับสไตล์การเล่นของคุณ
สายกีต้าร์ St. Matthew เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดไทย ด้วยราคาที่จับต้องได้และคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าสายรุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์และสไตล์การเล่นของตัวเอง มาดูรายละเอียดกันเลยครับ
ทำไมต้องสายกีต้าร์ St. Matthew?
* ราคาเข้าถึงง่าย: เหมาะสำหรับนักดนตรีมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการลองเปลี่ยนสายกีตาร์
* คุณภาพเสียงดี: ให้เสียงที่ใส คมชัด และมีความบาลานซ์ที่ดี
* ความทนทาน: มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเมื่อเทียบกับสายกีตาร์ในระดับราคาเดียวกัน
* ผลิตในประเทศไทย: สนับสนุนสินค้าไทย คุณภาพดี ราคาเป็นกันเอง
สายกีต้าร์ St. Matthew มีกี่รุ่น?
St. Matthew มีสายกีตาร์หลายรุ่นให้เลือก โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของวัสดุและขนาด ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพเสียงและความรู้สึกในการเล่น
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์โปร่ง?
* St. Matthew Phosphor Bronze: เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่อบอุ่น มีมิติ เหมาะกับแนวเพลง Acoustic, Folk และ Country
* St. Matthew 80/20 Bronze: เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงที่สดใส โปร่ง เหมาะกับแนวเพลง Bluegrass หรือ Fingerstyle
* St. Matthew Coated: สายเคลือบป้องกันความชื้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสายที่ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน
รุ่นไหนเหมาะกับกีต้าร์ไฟฟ้า?
* St. Matthew Nickel Wound: เหมาะสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าทุกประเภท ให้เสียงที่ใส คมชัด เหมาะกับแนวเพลง Rock, Blues และ Metal
* St. Matthew Flatwound: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสียงที่นุ่มนวล ไม่แหลม เหมาะสำหรับแนวเพลง Jazz หรือ Bass
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย St. Matthew ได้ที่ – https://c.lazada.co.th/t/c.YXTkKx
ตัวสุดท้ายของวันนี้ คือ สายกีต้าร์ SIT
เลือกสายกีต้าร์ SIT ให้เข้ากับสไตล์การเล่นของคุณ
สายกีต้าร์ SIT เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ด้วยคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและความทนทาน ทำให้หลายคนสงสัยว่าสายรุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์และสไตล์การเล่นของตัวเอง มาดูรายละเอียดกันเลยครับ
ทำไมต้องสายกีต้าร์ SIT?
* คุณภาพเสียงยอดเยี่ยม: ให้เสียงที่ใส คมชัด และมีความบาลานซ์ที่ดี
* ความทนทาน: มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
* เทคโนโลยีเคลือบ CRT: ช่วยป้องกันการเกิดสนิม ยืดอายุการใช้งานของสาย
* หลากหลายรุ่น: มีให้เลือกหลายรุ่น หลากหลายขนาด ตอบโจทย์ความต้องการของนักดนตรีได้ทุกระดับ
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์โปร่ง?
* SIT CRT Coated Acoustic: สายเคลือบป้องกันสนิม ให้เสียงที่ใส คมชัด เหมาะสำหรับทุกสไตล์การเล่น เหมาะกับกีตาร์โปร่งทุกประเภท
* SIT Golden Bronze: สาย 80/20 Bronze ให้เสียงที่อบอุ่น มีมิติ เหมาะสำหรับแนวเพลง Acoustic, Folk และ Country
* SIT Phosphor Bronze: ให้เสียงที่นุ่มนวล เหมาะสำหรับแนวเพลง Fingerstyle หรือ Blues
รุ่นไหนเหมาะกับกีตาร์ไฟฟ้า?
* SIT Power Wound Nickel: สายไฟฟ้า ให้เสียงที่คมชัด มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับแนวเพลง Rock, Blues และ Metal
* SIT Power Groove Pure Nickel: ให้เสียงที่นุ่มนวล เหมาะสำหรับแนวเพลง Jazz หรือ Blues
สั่งซื้อ และ เช็ค Promotion สาย SIT ได้ที่ – https://s.lazada.co.th/s.HoieJ?cc
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ ยี่ห้อสายกีต้าร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักกีต้าร์ชาวไทย
ใครสนใจสายแบบไหน ยี่ห้อไหน ก็กดซื้อ ตาม link ที่ให้ไว้ได้เลยครับ